🧪Microplastic | The Pollution that Made an Environmental Science Student Out of Me| Pt. 1

ความรู้

ไมโครพลาสติก (Microplastics: MPs) มลพิษที่ทําให้ นักรบ อยากเป็น นักวิทยาศาสตร์สิ่งเเวดล้อม ตอนที่ 1

Source and Fate of Microplastic in the Marine Environment [IG: nakrop_eny]

เเปลกไหมครับหากจะบอกว่า ผมมาเรียนในคณะวิทยาศาสตร์สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งเเวดล้อมที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะเศษพลาสติกชิ้นเล็กกว่า 5 มิลลิเมตรในกระเพาะปลาทูจากปากเเม่นํ้าเจ้าพระยา ผมคิดว่าไม่ครับ 💭 เช่นเดียวกันกับการที่ คุณสืบ นาคะเสถียรได้ “ ขอพูดในนามสัตว์ป่าทุกตัว ” ผมเชื่อว่าการเรียนวิทยาศาสตร์สิ่งเเวดล้อมคือการพูดเเทนปากเเม่นํ้าทุกสายในอุทกภาค เพราะ พวกเขาพูดด้วยเสียงของตนเองไม่ได้ เเต่หากเป็นไปได้พวกเขาคงจะบอกให้เรา “หยุด” “หยุดก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”

สวัสดีคับ ผมนายสิรวิชญ์ สุขขี นิสิตวิทยาศาสตร์สิ่งเเวดล้อมชั้นปี 2 ครับ เรามีความสนใจไมโครพลาสติกตั้งเเต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตอนนั้นที่สวนกุหลาบวิทยาลัยมีโครงการให้นักเรียนมัธยมปลายทําโครงงานร่วมกับคณาจารย์จากคณะสาขาที่จะศึกษาต่อ ด้วยกระบวนการคล้ายกับการนําเสนอป้องกันวิทยานิพนธ์โดยจะต้องสอบนําเสนอก่อนจบมัธยมปลาย เป็นของขวัญชิ้นเดียว เเละ ชิ้นสุดท้ายที่โรงเรียนมอบให้เป็นเเต้มต่อในการเข้าศึกษาระดับมหาวิทยาลัย

เราเลือกที่จะใช้โอกาสนั้นทําตามเสียงหัวใจของตนเอง หลังจากที่ได้อ่านบทสื่อสารงานวิจัยที่กล่าวถึงการพบไมโครพลาสติกในปลาทูจาก อุทยานเเห่งชาติหาดเจ้าไหม

บทความจาก BBC ที่กล่าวถึงปริมาณไมโครพลาสติกในปลาทูจากอ่าวไทยตอนล่าง

เราก็เลยอยากจะใช้พื้นที่นี้เล่าเรื่องการทํางานวิจัยหัวข้อ

Microplastic Contents in Some Estuarine Fish; Short Mackerel (Rastrelliger brachysoma) and Threadfin Bream (Nemipterus japonicus) from the Chao Phraya River Estuary

เเละ ทําไมเราถึงเลือกจะทําให้วิทยาศาสตร์สิ่งเเวดล้อมเป็นมากกว่าวิชาที่เรียนในหนังสือ

Part 1. ไมโครพลาสติกคืออะไร?

นับตั้งแต่มีการผลิตพลาสติกในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 รายงานเกี่ยวกับมลพิษจากพลาสติกได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในแวดวงวิทยาศาสตร์ เนื่องจากความคงทนถาวรของพลาสติก เศษพลาสติกสามารถเสื่อมสภาพจนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางรูปร่างและกลายเป็นชิ้นขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร ซึ่งเรียกว่า ไมโครพลาสติก (Microplastic: MP) ด้วยลักษณะเบาและมีความหนาแน่นต่ำของไมโครพลาสติก ส่งผลให้สามารถแพร่กระจายผ่านชั้นบรรยากาศและมหาสมุทรได้อย่างง่ายดาย จึงพบได้อย่างแพร่หลายในหลากหลายชีวนิเวศทั่วโลก (GESAMP, 2016)

ชนิดของพอลิเมอร์พลาสติกขนาดเล็กที่พบมากในชีวนิเวศทางทะเล ได้แก่ โพลีเอทิลีน (28%) โพลิโพรพิลีน (19%) โพลีไวนิลคลอไรด์ (10%) และโพลีสไตรีน (7%) (de Sa et al., 2018) มลพิษไมโครพลาสติกนั้นได้รับอิทธิพลทั้งจากกิจกรรมของมนุษย์และปัจจัยสิ่งแวดล้อม (Hitchcock และ Mitrovic, 2019; Savoca et al., 2021) นอกจากนี้ ไมโครพลาสติกยังสามารถเป็นพาหะของสารมลพิษอินทรีย์ตกค้าง (Persistent Organic Pollutants: POPs) โดยเฉพาะ DDT และ PCB ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพเมื่อถูกบริโภคโดยมนุษย์และสิ่งมีชีวิต (Espinosa, 2019; Champarngam, 2020)

Part 2. การพบไมโครพลาสติกในสมุทรภาค

มีการตรวจพบไมโครพลาสติกในผิวหน้านํ้าทะเลตั้งแต่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ มหาสมุทรแอตแลนติก ปากแม่น้ำแยงซี ไปจนถึงชายฝั่งประเทศเกาหลี โดยมีความเข้มข้นอยู่ระหว่าง 0.51 ถึง 157.2 ชิ้นต่อลูกบาศก์เมตร และเส้นใย (Fiber) เป็นลักษณะที่พบได้บ่อยที่สุด (Pan et al., 2021; Daana et al., 2017; Kwon et al., 2020; Li et al., 2020)

ไมโครพลาสติกอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาหาร และถูกกลืนกินโดยสิ่งมีชีวิตในทะเลโดยไม่ตั้งใจ เมื่อถูกกลืนเข้าไป ไมโครพลาสติกอาจก่อให้เกิดการอุดตันของลำไส้ ความรู้สึกอิ่มผิดปกติ และการเจริญเติบโตลดลงในระยะยาว ยิ่งไปกว่านั้น ไมโครพลาสติกขนาดเล็กมากอาจสามารถเคลื่อนย้ายจากระบบย่อยอาหารเข้าสู่กระแสเลือด และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมทางกายภาพของสิ่งมีชีวิต (Jovanovic, 2017)

Part 3. ผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อชีวนิเวศ

ในปลาทะเล ผลกระทบจากการสะสมไมโครพลาสติกพบได้ชัดเจนในปลาวัยอ่อน เนื่องจากมีการเลือกอาหารที่จำเพาะน้อยกว่า ซึ่งอาจลดความสามารถในการหลีกเลี่ยงผู้ล่า (Hajisamae et al., 2021; Espinosa et al., 2016) การศึกษาในปลากะพงขาววัยอ่อน (Lates calcarifer) โดย Xie et al. (2021) พบว่ามีการเพิ่มระดับของสาร malondialdehyde (MDA) จากความเครียดออกซิเดชันในลำไส้ แต่ไม่พบผลกระทบทันที นอกจากนี้ การสะสมของไมโครพลาสติกยังอาจเกิดขึ้นผ่านการถ่ายทอดทางห่วงโซ่อาหารในทะเล อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการสะสมแบบเพิ่มพูนทางชีวภาพ (biomagnification) ของไมโครพลาสติกในสิ่งมีชีวิตทางทะเล ซึ่งหมายความว่าสิ่งมีชีวิตในระดับโภชนาการล่างจะมีความเสี่ยงต่อการสะสมไมโครพลาสติกมากกว่า (Nelms et al., 2018; Walkinshaw et al., 2019)

Part 4. ไมโครพลาสติกในปากเเม่นํ้าเจ้าพระยา

ปากแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อมลพิษจากไมโครพลาสติก โดยพบว่าไมโครพลาสติกในตะกอนผิวหน้าของปากแม่น้ำมีความหนาแน่นเฉลี่ยประมาณ 200 ชิ้นต่อกิโลกรัม โดยมีลักษณะเด่นเป็นเส้นใยและเม็ดพลาสติก ซึ่งบ่งชี้ว่าแหล่งที่มาหลักของไมโครพลาสติกในบริเวณนี้น่าจะมาจากการปล่อยของเสียในเขตเมือง (Boontanon et al., 2020)

นอกจากนี้ Sukhsangchan et al. (2020) ยังรายงานว่าปริมาณไมโครพลาสติกในน้ำผิวหน้าทะเลมีค่าอยู่ระหว่าง 16.74 ถึง 59.06 ชิ้นต่อ 100 ลูกบาศก์เมตรในช่วงน้ำขึ้นเต็มที่ (spring tide) และ 43.26 ถึง 126.13 ชิ้นต่อ 100 ลูกบาศก์เมตรในช่วงน้ำลงเต็มที่ (neap tide) ซึ่งบ่งชี้ว่าไมโครพลาสติกมีการเคลื่อนที่ตามอิทธิพลของแรงน้ำขึ้นน้ำลง เเละ สภาวะอากาศ

Part 5. ทําไมต้องเป็นปลาทู เเละ ปลากระพงเเดง

เนื่องจากปลาสองชนิด ได้แก่ ปลาทู (Rastrelliger brachysoma) และปลากะพงแดง หรือ ปลาทรายเเดง (Nemipterus japonicus) เป็นปลาที่พบได้อย่างแพร่หลายในบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงในประเทศไทย (กองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง, 2561) จากความอุดมสมบูรณ์ของปลาทั้งสองชนิดนี้ จึงถูกนำมาใช้เป็นตัวอย่างปลาในทะเลตัวเเทนในการศึกษาไมโครพลาสติกในภูมิภาคอ่าวไทยและทะเลจีนใต้

การตรวจพบไมโครพลาสติกในปลาทู (R. brachysoma) ที่จับได้จากอ่าวไทย พบว่ามีปริมาณตั้งแต่ 1.0 ถึง 78 ชิ้นต่อหนึ่งตัวอย่าง ขณะเดียวกัน การศึกษาปลากะพงแดง (N. japonicus) จากเมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย รายงานว่ามีไมโครพลาสติกเฉลี่ย 57.50 ± 37.61 ชิ้นต่อหนึ่งตัวอย่าง

เนื่องจากปลาทั้งสองชนิดนี้อาศัยอยู่ในถิ่นที่อยู่อาศัยต่างกัน โดยปลาทู (R. brachysoma) เป็นปลาน้ำเปิด (pelagic fish) ส่วนปลากะพงแดง (N. japonicus) เป็นปลาที่อาศัยใกล้พื้นท้องทะเล (demersal fish)

การศึกษาการปนเปื้อนไมโครพลาสติกในปลาทูและปลากะพงแดงที่จับได้จากบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งในการทำความเข้าใจถึงการกระจายของไมโครพลาสติกในระบบนิเวศทางทะเลของพื้นที่ดังกล่าว

Part 6. ไปออกภาคสนามกัน

ปลาทู (Rastrelliger brachysoma) และปลากะพงแดง (Nemipterus japonicus) จะถูกจัดหาจากตลาดสดท้องถิ่นซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา โดยตัวอย่างปลาจะถูกทำให้ตายก่อนดำเนินการทดลอง ตลาดสดปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับการเลือกให้เป็นแหล่งจัดหาตัวอย่างปลา เนื่องจากมีเรือประมงขนาดเล็กนำปลาทะเลสดมาจำหน่ายอย่างต่อเนื่องโดยมีการศึกษานำร่องตลาดสดก่อนการเก็บตัวอย่างปลา เพื่อให้มั่นใจว่าปลาที่จำหน่ายในตลาดมีแหล่งจับมาจากพื้นที่ที่สนใจ ผ่านการสัมภาษณ์ชาวประมงและผู้ค้าท้องถิ่นแบบรายบุคคล

Part 7. เก็บตัวอย่าง เเละ วิเคราะห์

ตัวอย่างปลาทะเลจะถูกซื้อจากตลาดสดปากน้ำในช่วงเวลาที่มีการเติมสินค้าใหม่เพื่อรับประกันความสดของปลา ขนาดของปลาชนิด Rastrelliger brachysoma และ Nemipterus japonicus จะต้องมีความยาวมากกว่า 18 เซนติเมตรเพื่อยืนยันว่าปลามีความเจริญเติบโตเต็มที่ (Collete and Nauen, 1983; Russell, 1990) ตัวอย่างปลาจะถูกแยกเก็บในภาชนะต่างหากซึ่งติดฉลากขนาดและน้ำหนักของปลา ภาชนะเหล่านี้จะถูกจัดเก็บในถุงควบคุมอุณหภูมิพร้อมด้วยน้ำแข็งแห้งระหว่างการขนส่ง

จากนั้นจะทำการผ่าตัดเอากระเพาะอาหารของปลาออกด้วยมือหลังจากวัดลักษณะทางกายภาพแล้ว และเก็บในภาชนะเดียวกัน โดยเก็บรักษาที่อุณหภูมิ -20°C ก่อนนำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ (Prempree et al., 2018; Pradit et al., 2021; Andrews and Hammack, 2018)

ขั้นตอนการดำเนินการประกอบด้วย 2 ระยะ คือ การย่อยสลายสารอินทรีย์ และการตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบสเตอริโอ (stereomicroscope) โดยใช้สารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H₂O₂) ความเข้มข้น 30% v/v ในอัตราส่วน 10:1 (ปริมาตรต่อน้ำหนัก) เพื่อย่อยสลายเนื้อเยื่อในกระเพาะปลา การย่อยสลายจะดำเนินการในตู้บ่มที่อุณหภูมิ 40°C เป็นเวลา 48 ถึง 72 ชั่วโมง

หลังจากนั้น ส่วนผสมจะถูกกรองด้วยระบบสุญญากาศผ่านเยื่อกรอง (filter membrane) และตรวจสอบต่อด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบสเตอริโอ ขั้นตอนนี้ดำเนินการโดยอ้างอิงตาม “โปรโตคอลประสิทธิภาพสูง” สำหรับการสกัดไมโครพลาสติกจากตัวอย่างปลาทะเลเพื่อนํามาตรวจนับ (Karami et al., 2016; Phothakwanpracha et al., 2021)

Part 8. เเล้วได้ผลอะไรบ้าง?

ปริมาณไมโครพลาสติกรวมที่พบในตัวอย่างปลาทะเลจำนวน 32 ตัวอย่าง ซึ่งเก็บรวบรวมในช่วง 2 ฤดูกาล มีจำนวนทั้งหมด 393 ชิ้น โดยมีค่าเฉลี่ยของไมโครพลาสติกอยู่ที่ 11.06 ± 2.06 ชิ้นต่อปลา 1 ตัว ในจำนวนนี้ พบไมโครพลาสติก 201 ชิ้นในเนื้อหาของกระเพาะปลาทู (R. brachysoma) โดยมีค่าเฉลี่ยการพบ 10.13 ± 3.05 ชิ้นต่อปลา 1 ตัว และพบไมโครพลาสติก 192 ชิ้นในเนื้อหาของกระเพาะปลากะพงแดง (N. japonicus) โดยมีค่าเฉลี่ยการพบ 12 ± 2.85 ชิ้นต่อปลา 1 ตัว

มีการเพิ่มขึ้นของค่าเฉลี่ยจำนวนไมโครพลาสติกที่ตรวจพบในตัวอย่างปลาทะเลทั้งสองชนิด จาก 5.88 ± 1.81 ชิ้นในปลาทู (R. brachysoma) ที่เก็บตัวอย่างในฤดูแล้ง เป็น 16.43 ± 5.65 ชิ้นในตัวอย่างที่เก็บในฤดูฝน และจาก 8.63 ± 1.99 ชิ้น เป็น 15.38 ± 5.26 ชิ้นในปลากะพงแดง (N. japonicus) ตามลำดับ

นอกจากนั้นยังพบการเพิ่มขึ้นของค่าเฉลี่ยจำนวนไมโครพลาสติกที่ตรวจพบในตัวอย่างปลาทะเลทั้งสองชนิด โดยในปลาทู (R. brachysoma) มีจำนวนเพิ่มจาก 5.88 ± 1.81 ชิ้นในตัวอย่างที่เก็บในฤดูแล้ง เป็น 16.43 ± 5.65 ชิ้นในตัวอย่างที่เก็บในฤดูฝน ส่วนในปลากะพงแดง (N. japonicus) จำนวนไมโครพลาสติกเพิ่มจาก 8.63 ± 1.99 ชิ้น เป็น 15.38 ± 5.26 ชิ้น ตามลำดับ

การระบุลักษณะสีและรูปร่างของไมโครพลาสติก (MPs) ใช้วิธีการตรวจสอบด้วยตาเปล่าและแบ่งประเภทตามสีพื้นฐาน ในช่วงฤดูแล้ง สีของไมโครพลาสติกที่พบมากที่สุดคือสีดำ (44.8%) และสีน้ำตาล (32.1%) ตามด้วยสีแดง (15.5%) ส่วนในฤดูฝนพบว่า สัดส่วนของไมโครพลาสติกที่มีลักษณะโปร่งใสเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 64.6% ตามด้วยไมโครพลาสติกสีดำที่มีสัดส่วน 21.4%

Part 9. ผลการวิจัยบอกอะไรเราบ้าง?

ในช่วงฤดูฝน ปริมาณการไหลของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นถึง 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 75 ปีตามการจำลอง (Champathong et al., 2013; Hunukumbura and Tachikawa, 2012) การเพิ่มขึ้นของพื้นที่รับน้ำจากฝนส่งผลต่อการปรากฏของไมโครพลาสติกในน้ำผิวหน้า เนื่องจากมีความสัมพันธ์โดยตรงกับกระบวนการชะล้างเข้าสู่หรือล้างออกจากปากแม่น้ำ มากกว่าการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของปัจจัยสิ่งแวดล้อม (Lima et al., 2015)

ในระบบนิเวศปากแม่น้ำเขตร้อนที่ได้รับผลกระทบจากมนุษย์สูง การปรากฏของไมโครพลาสติกอาจมีความหนาแน่นใกล้เคียงกับสัตว์แพลงก์ตอนสัตว์และตัวอ่อนปลา ซึ่งอาจถูกบริโภคโดยสิ่งมีชีวิตในระดับโภชนาการสูงขึ้น ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือโดยไม่ตั้งใจ (Lima et al., 2015; Hitchcock and Mitrovic, 2019) เนื่องจากปลาทะเลทั้งสองชนิดเป็นสิ่งมีชีวิตในระดับโภชนาการต่ำ จึงไม่แปลกที่ปลาทู (R. brachysoma) จะพบการเพิ่มขึ้นของจำนวนไมโครพลาสติกเฉลี่ยอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าปลากะพงแดง (N. japonicus) โดยมีค่าเฉลี่ยจำนวนไมโครพลาสติกเท่ากับ 10.55 และ 6.75 ชิ้น ตามลำดับ เนื่องจากปลาทูอยู่ในระดับโภชนาการที่ต่ำกว่า

ในช่วงฤดูแล้ง การปรากฏของไมโครพลาสติกในปลาทู (R. brachysoma) และปลากะพงแดง (N. japonicus) สะท้อนให้เห็นถึงปริมาณไมโครพลาสติกในแต่ละโซนของปากแม่น้ำเจ้าพระยา โดยปลากะพงแดงซึ่งเป็นปลาที่อาศัยบริเวณก้นทะเล (benthic fish) พบว่าไมโครพลาสติกชนิดเม็ด (pellet) เป็นลักษณะเด่นของไมโครพลาสติก เนื่องจากกระบวนการผุกร่อนทางกายภาพและทางเคมี (abiotic weathering) ในพื้นที่ดังกล่าวมีความรุนแรง ส่งผลให้พลาสติกที่มีความหนาแน่นสูง เช่น อุปกรณ์พลาสติกใช้ในครัวเรือน เช่น จานชามและภาชนะพลาสติก แตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ (Ta and Babel, 2020)

สำหรับปลาทู (R. brachysoma) ซึ่งอาศัยอยู่ในโซนทะเลเปิด (oceanic zone) มีความเสี่ยงต่อการได้รับไมโครพลาสติกชนิดเส้นใย (fibrous MPs) ที่มาจากการระบายของเสียจากชุมชนและเครื่องมือประมงร้าง (ghost fishing gear) ซึ่งพบแพร่หลายอยู่ในชั้นผิวน้ำบริเวณปากแม่น้ำที่เชื่อมต่อกับทะเล (Oo et al., 2021; Boontanon et al., 2020)

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองงานวิจัยรายงานว่ามีไมโครพลาสติกชนิดเม็ดจำนวนมากในปากแม่น้ำซึ่งบ่งชี้ว่าพฤติกรรมการกินอาหารของปลาทู (R. brachysoma) มีบทบาทสำคัญต่อปริมาณไมโครพลาสติกชนิดเส้นใยที่พบมากในช่วงฤดูแล้ง โดยปลาทูเป็นปลาที่กินแพลงก์ตอน (planktivores) มีแผ่นกรองเหงือก (gill raker) ที่เห็นได้ชัดเจนบนแขนงเหงือกบน (17–21 แผ่น) และแขนงเหงือกล่าง (34–37 แผ่น) ซึ่งช่วยในการกรองเศษเส้นใยไมโครพลาสติกผ่านพฤติกรรมการกรองอาหาร และแผ่นกรองเหงือกนี้ยังสามารถกั้นไม่ให้ชิ้นไมโครพลาสติกขนาดใหญ่ เช่น เศษชิ้นหรือเม็ด ผ่านเข้าไปได้ (Sujastani, 1976; Muto, 2016; Kalaiselvan et al., 2022)

Part 10. So what did I do with my research

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ

 

อ้างอิง:

Jualong, S. (2018). First evidence of existence of microplastics in stomach of some commercial fishes in the lower gulf of Thailand. Applied Ecology and Environmental Research, 16(6), 7345–7360.

Nurtang, L., Daud, A., Werorilangi, S., Mallongi, A., Ibrahim, E., & Syah, R. (2020). Analysis of Microplastic Intake by Human through Red Kurisi Fish (Nemiptus Japonicas) and Mackerel (Rastrelliger Sp) Consumption in the Coastal Area Community of Tamasaju Village, North Galesong, Takalar Regency.รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์ทางทะเล ครังที่ 6. (2018). [Ebook]. Retrieved from http://marine.buu.ac.th/uploads/proceeding_final.pdf

Collete, B. B. (1983). FAO species catalogue, Vol 2. Scombrids of the world: an annotated and illustrated catalogue of tunas, mackerels, bonitos and related species known to date. FAO Fish. Synop., 125, 1–137.

Russell, B. C. (1990). Nemipterid fishes of the world. FAO Fisheries Synopsis, 12(125), I.

Pradit, S., Noppradit, P., Goh, B. P., Sornplang, K., Ong, M. C., & Towatana, P. (2021). Occurrence of microplastics and trace metals in fish and shrimp

Andrews, W., & Hammack, T. (2018). BAM Chapter 1: Food Sampling/Preparation of Sample Homogenate. Retrieved 15 March 2022, from https://www.fda.gov/food/laboratory-methods-food/bam-chapter-1-food-samplingpreparation-sample-homogenate

Andrews, W., & Hammack, T. (2018). BAM Chapter 1: Food Sampling/Preparation of Sample Homogenate. Retrieved 15 March 2022, from https://www.fda.gov/food/laboratory-methods-food/bam-chapter-1-food-samplingpreparation-sample-homogenate

Karami, A., Golieskardi, A., Choo, C. K., Romano, N., Ho, Y. B., & Salamatinia, B. (2017). A high-performance protocol for extraction of microplastics in fish. Science of the total environment, 578, 485–494.

Phothakwanpracha, J., Lirdwitayaprasit, T., & Pairohakul, S. (2021). Effects of sizes and concentrations of different types of microplastics on bioaccumulation and lethality rate in the green mussel, Perna viridis. Marine Pollution Bulletin, 173, 112954.

Zhao, J., Ran, W., Teng, J., Liu, Y., Liu, H., Yin, X., … & Wang, Q. (2018). Microplastic pollution in sediments from the Bohai Sea and the Yellow Sea, China. Science of the Total Environment, 640, 637–645.